• ผิวหนังของคนเรา ปกติแล้วแบ่งเป็น 3 ชั้นคือ
- ผิวหนังชั้นกำพร้า (Epidermis) เป็นผิวชั้นนอกสุด ประกอบด้วยเซลล์ผิวหนัง (Keratinocyte) ซึ่งเป็นเซลล์ที่มีหน้าที่สร้างสารเคอราติน (Keratin) ปกคลุมผิวหน้าของผิวหนังเป็นชั้นขี้ไคล ขั้นหนังกำพร้านี้ทำหน้าที่รักษาความชุ่มชื้นให้กับพื้นผิว ป้องกันเชื้อโรคต่างๆ เข้าสู่ร่างกาย รักษาอุณหภูมิของร่างกายให้คงที่ (อ้างอิงที่ 1,2)
- ผิวหนังแท้ (Dermis) เป็นผิวชั้นใน ประกอบด้วยส่วนที่เป็นเส้นใยประสานกันไปมาคือ โปรตีนเส้นใดของคอลลาเจน (Collagen fibers), โปรตีนเส้นใยอีลาสติก (Elastic fibers) และโปรตีนเส้นใยร่างแห (Recticulum fibers) นอกจากนี้ยังมีกล้ามเนื้อ เส้นเลือด เส้นประสาทต่างๆ ที่รับความรู้สึกอยู่ด้วย (อ้างอิงที่ 1,2)
- ชั้นไขมันใต้ผิวหนัง (Subcutis) ทำหน้าที่รองรับผิวหนังให้คงรูปร่าง ช่วยลดการกระทบกระแทก และเป็นแหล่งพลังงานของร่างกายยามขาดแคลนพลังงาน (อ้างอิงที่ 1,2) คอลลาเจน (Collagen) มีรากศัพท์มาจากภาษากรีก คือ คอลลา(Kolla) ซึ่งแปลว่ากาว คอลลาเจนเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่ประสานกันเป็นเส้นใยอยู่ใต้ชั้นผิวหนังแท้ ทำหน้าที่เสริมความเรียบตึงให้แก่ผิวหนัง ทำให้ผิวหนังดูเรียบ เนียน และทำงานคู่กับโปรตีนอีกชนิดหนึ่งที่ชื่อ อีลาสติน (Elastin) ในขณะที่คอลลาเจนมีหน้าที่เสมือนโครงร่างผิว อีลาสตินก็ทำหน้าที่ให้ความยืดหยุ่นแก่ผิว (อ้างอิงที่ 3) ในวัยเด็กคอลลาเจนยังไม่เสื่อมสลายและมีจำนวนมาก จึงทำให้เห็นว่าเด็กๆ หรือวัยรุ่นที่กำลังแตกเนื้อหนุ่มสาวมีผิวหนังที่เต่งตึง แต่เมื่อมีวัยมากขึ้นเส้นใยคอลลาเจนเหล่านี้จะเสื่อมสลายและมีปริมาณลดลง ทำให้ชั้นผิวหนังยุบตัวลง อันเป็นต้นเหตุของความเหี่ยวย่นและริ้วรอย อย่างไรก็ตามเราสามารถเสริมสร้างคอลลาเจนให้แก่ร่างกายได้เพื่อลดรอยเหี่ยวย่น (อ้างอิงที่ 4 ) ด้วยการรับประทานคอลลาเจน หรือวิธีการฉีดคอลลาเจนเข้าใต้ชั้นผิวหนังแท้ แต่วิธีการฉีดนั้นค่อนข้างจะยุ่งยากเพราะต้องใช้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญดังนั้น วิธีการรับประทานจึงเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
ขอบคุณมากนะคะ สำหรับทุกๆ ความคิดเห็น