วันอาทิตย์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2561

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ ดีเอชเอและการทำงานของสมอง

          น้ำมันปลา ประกอบด้วยกรดไขมันจำเป็นประเภทโอเมก้า 3 อยู่ในปริมาณสูง ซึ่งในกลุ่มของโอเมก้า 3 นั้น มีกรดไขมันไม่อิ่มตัว 2 ชนิดที่สำคัญได้แก่ 1. กรดโดโคซาเฮกซาอีโนอิก (Docosahexaenoic Acid) หรือ DHA 2. กรดไอโคซาเพนทาอีโนอิก (Eicosapentaenoic Acid) หรือ EPA

         แหล่งของ DHA และ EPA ในธรรมชาติพบมากในปลาทะเล และสาหร่าย โดย EPA จะมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดอุดตัน โรคหลอดเลือดหัวใจ ช่วยลดระดับของไตรกลีเซอร์ไรด์ในเลือด (อ้างอิงที่ 1) ขณะที่ DHA มีความสำคัญต่อการทำงานของสมอง เพราะเป็นโครงสร้างพื้นฐานของเซลล์สมอง

        ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีผลงานวิจัยแสดงอย่างชัดเจนว่า สาร DHA ในน้ำมันปลามีส่วนสำคัญในการพัฒนาสมอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงตั้งแต่แรกเกิดที่ต้องการ DHA ในปริมาณมากและเพียงพอ เพื่อใช้ในการพัฒนาสมองได้อย่างเต็มที่ในวัยผู้ใหญ่ (อ้างอิงที่ 2) DHA จะผ่านเข้าไปในสมองและเสริมสร้างการเจริญเติบโตของปลายประสาทที่เรียกว่า เดนไดรต์ (dendrite) ซึ่งจะทำหน้าที่ถ่ายทอดสัญญาณและส่งผ่านข้อมูลระหว่างเซลล์สมองด้วยกัน ทำให้เกิดการเรียนรู้และการจดจำ (อ้างอิงที่ 3) นอกจากนี้ DHA ยังมีความสำคัญต่อระบบประสาทตาและระบบการทำงานของสายตาอีกด้วย (อ้างอิงที่ 2)

         DHA ยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคความจำเสื่อม ชนิดที่เป็นที่รู้จักกันดีคือ โรคอัลไซเมอร์ ซึ่งเป็นโรคที่พบได้บ่อยในกลุ่มโรคความจำเสื่อม โดยจะมีการเสื่อมของเซลล์สมองในส่วนที่ควบคุมการเรียนรู้และความจำ โรคนี้ส่วนใหญ่พบในผู้สูงอายุที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป และอัตราความเสี่ยงของโรคจะเพิ่มขึ้นตามอายุที่มากขึ้น (อ้างอิงที่ 4) โดยเฉพาะกลุ่มผู้ป่วยด้วยโรคความผิดปกติของหลอดเลือด ได้แก่ โรคหลอดเลือดหัวใจ เบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง และไขมันในเลือดสูง ถือเป็นกลุ่มเสี่ยงสำคัญที่อาจเกิดเซลล์สมองฝ่อเร็วกว่าคนทั่วไป (อ้างอิงที่ 5)

         โรคอัลไซเมอร์ จะส่งผลให้เกิดความจำเสื่อม การทำงานประสานของร่างกายลดลง พฤติกรรมเปลี่ยนแปลง หลงลืม สับสน และไม่สามารถปฏิบัติงานที่เคยทำปกติได้ การมีเหตุผลจะลดลง ที่สำคัญคือเมื่อเกิดขึ้นแล้วไม่สามารถรักษาให้หายได้(อ้างอิงที่ 4) ปัจจุบันมีผู้ป่วยด้วยโรคนี้ทั่วโลกประมาณ 33.9 ล้านคน และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 3 เท่าในอีก 40 ปีข้างหน้า สำหรับในประเทศไทยซึ่งมีผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปทั้งหมดประมาณ 8.3 ล้านคน คาดว่าจะมีผู้ที่มีความเสี่ยงเป็นโรคอัลไซเมอร์ประมาณ 8.3 แสนคน และคาดการณ์ได้ว่าโรคอัลไซเมอร์จะเป็นปัญหาทางสาธรณสุขที่รุนแรงขึ้นในอนาคต ซึ่งไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อผู้เป็นโรคเท่านั้น ยังส่งผลกระทบต่อคนในครอบครัวอีกด้วย ดังนั้น โรคอัลไซเมอร์จึงเป็นโรคที่น่ากังวลในปัจจุบันและอนาคตเป็นอย่างมาก (อ้างอิงที่ 6)

          หนึ่งในสาเหตุของการเกิดโรคอัลไซเมอร์คือ การสะสมของ อะไมลอยด์ เบต้า (Amyloid Beta) จนกลายเป็น อะไมลอยด์ พล๊าค (Amyloid Plaques) ซึ่งมีความเป็นพิษต่อเซลล์ประสาท โดยจะทำลายสมดุลไอออน ทำให้เกิดอนุมูลอิสระ ทำลายโครงสร้างของเยื่อหุ้มเซลล์ที่มีไขมันและโปรตีนเป็นส่วนประกอบ และทำให้เกิดการกระตุ้นเซลล์ Microglia ซึ่งเมื่อ Microglia ถูกกระตุ้นจะทำให้เกิดการหลั่งสารที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบที่เป็นพิษต่อ ระบบประสาท ซึ่งเป็นสาเหตุให้เซลล์สมองถูกทำลาย (อ้างอิงที่ 4,7)

          มีงานวิจัยสนับสนุนว่า DHA ในน้ำมันปลาช่วยเพิ่มสารที่มีชื่อว่า LR11 โปรตีน ซึ่งสามารถช่วยลดการเกิดอะไมลอยด์ เบต้า (Amyloid Beta) ที่จะรวมตัวเป็น อะไมลอยด์ พล๊าค (Amyloid Plaques) หนึ่งในสาเหตุของการเกิดโรคอัลไซเมอร์ได้ (อ้างอิงที่ 8) อีกงานวิจัยที่ทำการทดลองกับผู้สูงอายุ พบว่า การรับประทาน DHA วันละ 900 มก. เป็นเวลา 6 เดือน สามารถเพิ่มความสามารถในการเรียนรู้ และการจดจำได้ดี (อ้างอิงที่ 9) นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยเพิ่มเติมสนับสนุนว่า DHA สามารถชะลอการเกิดโรคสมองเสื่อมประเภทอัลไซเมอร์ได้ โดยที่ไม่มีผลข้างเคียงต่อสุขภาพ และมีความปลอดภัยสูง (อ้างอิงที่ 10) รวมถึงงานวิจัยระบุว่าการที่ร่างกายได้รับ DHA ที่ไม่เพียงพอจะมีแนวโน้มทำให้มีโอกาสเกิดอนุมูลอิสระ เกิดปฏิกริยา lipid peroxidation ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคอัลไซเมอร์ได้ (อ้างอิงที่ 11)

          นอกจากนี้ ยังมีงานวิจัยในประเทศออสเตรเลีย โดยศึกษากับเด็ก อายุ 7-12 ปี ที่มีอาการสมาธิสั้นพบว่า การเพิ่มขึ้นของดีเอชเอในเม็ดเลือดแดง ส่งผลให้เด็กมีการอ่านคำที่ดีขึ้น การสะกดคำที่ดีขึ้น ความสนใจดีขึ้น พฤติกรรมที่ผิดปกติ ความกระสับกระส่าย และอาการสมาธิสั้นโดยรวมลดลง (อ้างอิงที่ 12) และมีงานวิจัยในประเทศโอมาน ระบุว่าเด็ก ที่เป็นโรคออทิซึม หรือ ผู้ป่วยออทิสติก จะมีระดับของ DHA ในเม็ดเลือดแดงต่ำเช่นเดียวกัน (อ้างอิงที่ 13)

          ดังนั้นการรับประทานอาหาร หรือ อาหารเสริมที่มีส่วนประกอบของ กรดโดโคซาเฮกซาอีโนอิก หรือ DHA เป็นประจำ จะมีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างพัฒนาการในเด็กที่เป็นโรคสมาธิสั้น และผู้ป่วยออทิสติก นอกจากนี้ยังลดความเสี่ยงในการเป็นโรคอัลไซเมอร์ในผู้สูงอายุ และมีส่วนช่วยในการพัฒนาสมอง เพิ่มการเรียนรู้ และการจดจำได้อีกด้วย

เอกสารอ้างอิง

1. Robert Oh. Practical Applications of Fish oil (omega-3 fatty acids) in Primary Care. J Am Board Farm Pract 2005;18:28-36
2. A Diet Enriched with the Omega-3 Fatty Acid Docosahexaenoic Acid Reduces Amyloid Burden in an Aged Alzheimer Mouse Model.The Journal of Neuroscience, March 23,2005;25(12):3032-3040
3. ทางเลือกในการพัฒนาสมองด้วยสาร DHA โดย สิงหะเนติ, สรวงสุดา 2541 สาร DHA ทางเลือกในการพัฒนาสมอง วิทยาศาสตร์และโทคโนโลยี 13(2)พค.-สค. (ออนไลน์): http://www.school.net.th/library/snet4/anatomy/dha.htm
4. Expression of Amyloid-Beta and Interleukin-13 Recombinant Protein in Escherichia coli . National Graduate Research Conference Nokhon Ratchasima Rajabhat University.
5. Risk factors: Alzheimer’s association [Internet]. 2008 :[about 5 p.].Available from: http://www.alz.org/alzheimers_disease_causes_risk_factors.asp
6. การพัฒนาโปรแกรมตรวจคัดกรองความเสี่ยงต่อโรคอัลไซเมอร์ได้ด้วยสมาร์ทโฟน : สำนักงานสารนิเทศและประชาสัมพันธ์ กระทรวงสาธารณสุข (ออนไลน์). กุมภาพันธ์ 2556 : 1หน้า : http://203.157.19.14/iprg/include/admin_hotnew/show_hotnew.php?idHot_new=53497
7. Omega- 3 fatty acids and dementia. Prostaglandins Leukot Essent Fatty Acids. Aug-Sep 2009;81(2-3):213-21.
8. Omega-3 Fatty Acid Docosahexaenoic Acid Increases SorLA/LR11, a Sorting Protein with Reduced Expression in Sporadic Alzheimer’s Disease (AD): Relevance to AD Prevention. J Neurosci, December 26,2007;27(52):14299-14307.
9. Beneficial effects of docosahexaenoic acid on cognition in age- related cognitive decline. Alzheimer’s & Dementia: The journal of the Alzheimer’s association, November 2010, Volume 6, Issue 6, Pages 456-464.
10. DHA May Prevent Age-Related Dementia. J Nutr. April 2010; 140(4):869-874.
11. ประโยชน์ของน้ำมันปลา ( Fish Oil) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (ออนไลน์). http://www.thaihealth.or.th/healthcontent/article/17557
12. Eicosapentaenoic and docosahexaenoic acids, cognition, and behavior in children with attention-deficit/hyperactivity disorder: a randomized controlled trial. Nutrition, June 2012; 28(6):670-7.
13. Impact of nutrition on serum levels of docosahexaenoic acid among Omani children with autism. Nutrition, June 2013; S0899-9007(13)00196-2.

สามารถนำรหัสสมาชิก 47024879 ไปซื้อได้ที่สำนักงานธุรกิจกิฟฟารีนทั่วประเทศ
สั่งซื้อออนไลน์ หรือติดต่อสอบถามข้อมูล


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ขอบคุณมากนะคะ สำหรับทุกๆ ความคิดเห็น